สั่นไปถึง SOUL การรวมตัวกันของ 3 หนุ่ม 3 คาแรกเตอร์ที่มาพร้อมกับลีลาการโยกย้ายตัวไปตามเมโลดี้เพลงโซลอันเป็นที่มาของชื่อวง ‘The Parkinson’ ที่ประกอบไปด้วย กานต์-นิภัทร์ กำจรปรีชา (กีตาร์-ร้องนำ), เบียร์-อริย์ธัช เกื้อจิตกุลนันท์ (กลอง) และ โต-ณัฐวิทย์ โอดาคิ (เบส) เรื่องราวความเป็นมาของ เดอะ พาร์กินสัน เริ่มต้นมาจาก กานต์ สมาชิกรุ่นบุกเบิกเพียงคนเดียวเป็นผู้ตั้งต้น โดย โต มือเบสเริ่มเข้ามาอยู่ในวงจากการชักชวนของมือกลองคนเก่า ก่อนที่มือกลองจะลาออกไป และได้ เบียร์ ผู้เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนในคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรของกานต์เข้ามาเป็นส่วนผสมคนสุดท้ายของพาร์กินสันยุคปัจจุบัน ทิศทางดนตรีของพวกเขาจะอยู่ในขอบข่ายของ ‘เพลงคนดำ’ โดยจะเน้นหนักไปที่ดนตรี ‘โซล (SOUL)’ ซึ่งนับว่าเป็นแนวดนตรีที่อาจจะหาฟังได้ไม่บ่อยนักจากศิลปินชาวไทย ซึ่งทั้ง 3 หนุ่มก็มั่นใจว่าเพลงที่พวกเขาตั้งใจกัน ปลุก-ปั้น-ปรุง-แต่ง ขึ้นมานั้น เป็นโซลในแบบฉบับของพาร์กินสันที่ ดิบสด เร้าใจและไม่ซ้ำใคร อย่างแน่นอน สมกับคาแรกเตอร์ของวงที่หนุ่มๆ จอมสั่นให้ได้คำอธิบายไว้ “พาร์กินสันมันเป็นพวกร้ายลึก ดูผิวเผินจะดูสุภาพเรียบร้อย แต่ที่จริงแล้วพวกมันมีรสนิยมที่แปลก และโคตรบัดซบเลย” เมโลดี้ฝรั่งแต่เนื้อร้องไทย ไหวเหรอ ? ถ้าแนวดนตรี Soul (โซล) แบบออริจินัลมีรากมาจากเพลง Blues (บลูส์) ที่เป็นการปลดปล่อยความคับแค้นแสนเศร้าในชีวิตของทาสผิวดำออกมาเป็นท่วงทำนองและบทเพลง ก่อนจะพัฒนาขึ้นมาเป็นโซลที่เนื้อหาที่พูดถึงเรื่องที่หลากหลายขึ้น เริ่มพูดถึงความรัก ศาสนา หรืออะไรก็ตามแต่ที่ออกมาจากจิตวิญญาณแบบดิบๆ ไม่มีกั๊ก ไม่ต้องเค้น โซลในแบบของพาร์กินสันก็เป็นเช่นนั้น จุดเด่นของพวกเขาอยู่ที่ บีทเมโลดี้ในเพลงละเอียดและเป็นสัดส่วน ซึ่งเพลงในลักษณะนี้น่าจะหาฟังได้ไม่บ่อยนักจากเมโลดี้เพลงไทย เนื่องจากมักจะมีคำพูดหนึ่งที่เป็นข้อจำกัดในการสร้างสรรค์ก็คือ “ทำเพลงไทย เนื้อร้องไทย แต่มีเมโลดี้สวยๆ แบบฝรั่ง จะทำไหวเหรอ?” จะบอกเธอว่ารัก ซิงเกิลแรกของพาร์กินสัน ทำหน้าที่ท้าทายคำพูดที่ว่าไว้เป็นที่เรียบร้อย เพลงช้า เนื้อหาซึ้ง และบีทเมโลดี้ที่ไพเราะของเพลงนี้ เป็นเพลงที่พวกเขาตั้งใจจะสื่อสารกับผู้ฟังให้จับต้องง่ายมากขึ้น ด้วยการผสานความยากของภาคดนตรีแบบโซลที่เรียกได้ว่า เนี้ยบในทุกรายละเอียดราวกับเพลงสากล กับความตรงไปตรงมาของเนื้อร้องไทย ที่ไม่เน้นการประดิษฐ์ภาษาเป็นสำนวนที่สละสลวย หากแต่โพล่งร้องออกมาจากความรู้สึกของ ‘คนแอบรัก’ ออกมาได้อย่างงดงาม ผู้ฟังคนไหนที่อยากสั่นไป เขินไป ต้องลองไปรับชมเดอะ พาร์กินสันแสดงสดกันสักครั้ง สมาชิก THE PARKINSON นิภัทร์ กำจรปรีชา (กานต์) ตำแหน่ง : กีตาร์-ร้องนำ หนุ่มหนวดผู้ร่ำเรียนดนตรีมาโดยตรง จบการศึกษาจากคณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กัปตันวงเดอะพาร์กินสัน ที่เป็นผู้กำหนดทิศทางแนวดนตรีประจำวง ใครที่ดูการแสดงสดของเขาจะได้เห็นนักร้องคนนี้โยกย้ายร่างกายไปมา ในลีลาที่ชวนมอง ซึ่งอาจจะเผลอตัดสินไปได้ว่าเขาดูดิบ โหด แต่ที่จริงแล้ว ใครจะเชื่อว่ากานต์เป็น หนุ่มโอตาคุ ตัวจริงเสียงจริง กานต์เป็นชายหนุ่มงุงิที่ชอบอ่านการ์ตูนแบบสุดๆ เขาเคยใส่หมวกลายการ์ตูนเดินไปมาบนท้องถนนแบบไม่แคร์สายตาใคร สะสมของเล่นในการ์ตูนเรื่องต่างๆ ใครรักชอบการ์ตูนเรื่อง One Piece (วันพีช) หรือ Naruto (นารุโตะ) รับรองว่าคุยเข้าขากับกานต์ได้เป็นอย่างดีแน่นอน และอีกความคลั่งใคล้หนึ่งของนักร้องเพลงโซลคนนี้ก็คือ ‘เกม’ เพื่อนๆ ทุกคนลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไอ้กานต์มันบ้าเกมมาก...” เขาเล่นเกมทุกชนิด ที่บ้านมีเครื่องเล่นเกมครบทุกประเภท เล่นได้ตั้งแต่เกมสุดคลาสสิกอย่างตัวต่อเตอร์ติส มาจนถึงเกมร่วมสมัยอย่างคุกกี้รันก็ ฉะนั้นหากใครหนุ่มหนวดนั่งก้มหน้าก้มตาจ้องมือถืออย่างขะมักเขม้นก็ไม่ต้องสงสัย เขาวอร์มนิ้วเล่นเกมก่อนเล่นกีตาร์ชัวร์! อริย์ธัช เกื้อจิตกุลนันท์ (เบียร์) ตำแหน่ง : กลอง มือกลองหนุ่มผู้ขี้อาย และพูดน้อยที่สุดในวงคนนี้ เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกับกานต์ ที่คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เอกกลองโดยตรง เบียร์มีความสนใจดนตรีมาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นอดีตสมาชิกของวง ‘Bangkok Soul’ ก่อนจะมารับตำแหน่งตีกลองให้เดอะ พาร์กินสัน แม้ว่าจะดูเงียบขรึม เรียบร้อยเช่นนี้ แต่งานอดิเรกที่เขาชอบทำ ยามว่างเว้นจากการเล่นดนตรีก็คือ เขาชอบดูตลก โดนเฉพาะถ้าเป็นการโชว์ของ ‘แก๊ง 3 ช่า’ หม่ำ เท่ง โหน่ง แล้วล่ะก็ เบียร์จะโปรดปรานมากเป็นพิเศษ เขาว่าดูแล้วมันผ่านคลาย แก้ความเครียดได้ดี นอกจากทีมพาร์กินสันและทีม 3 ช่าแล้ว อาร์เซนอล ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทีมที่เขาสุดหัวใจ ณัฐวิทย์ โอดาคิ (โต) ตำแหน่ง : เบส สมาชิกที่รูปลักษณ์ภายนอกดูแสบสั่นที่สุดในวง พี่ใหญ่มือเบสคนนี้ ก่อนจะมาร่วมวงกับน้องๆ โตเป็นอดีตมือเบสของวงดนตรีแนวสการ็อกที่ชื่อว่า ‘วงมนต์รักโบราโบร่า’ ด้วยความรักในดนตรี ทำให้เขามีนิสัยเปิดกว้างและพร้อมจะเรียนรู้ในแนวดนตรีต่างๆ เมื่อได้รับคำชักชวนให้มาเล่นดนตรีแนวโซลกับเดอะ พาร์กินสัน เขาจึงไม่ลังเลที่จะตอบรับ แม้จะไม่ค่อยมีประสบการณ์การเนเบสในดนตรีแนวนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า “เพลงแนวนี้ก็น่าสนใจดี” โตเป็นแฟมมิลี่แมน (ที่หลายคนอาจะแอบรู้สึกว่าขัดกับลุค) ที่รักการดูคลิปเป็นชีวิตจิตใจ สามารถดูติดต่อกันได้ 3-4 ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก ซึ่งคลิปที่ว่ามานี้ส่วนใหญ่แล้วโตจะหนักไปทาง ‘คลิปดาร์ก’ ประเภทมูลนิธิเก็บศพ คลิปรถชน คลิปงมหาคนจมน้ำ ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ดูเพื่อปลง’ และอีกเหนือความคาดหมาย เขาสนใจ ศาสนาพุทธ ในแง่ของคำสอน เพื่อมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โตวิเคราะห์ตัวเองได้ว่า เขาอาจจะเป็นคนใจเย็น เพราะหมั่นปลงเรื่องความตาย (จากนิสัยดูคลิป) และเชื่อในหลักของพุทธศาสนาก็เป็นได้